วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ครูมืออาชีพ (สิ่งที่ต้องการ และสิ่งที่รอคอย)
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นางศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และโฆษก ศธ. เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิตและนักศึกษาทุนโครงการผลิตครูมืออาชีพเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ...
ที่ประชุมได้พิจารณาเกณฑ์การคัดเลือกผู้รับทุนโครงการครูมืิออาชีพ ปีการศึกษา 2555 โดยได้นำหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้รับทุนในโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ในปีการ ศึกษา 2554 มาพิจารณาเทียบเคียง ซึ่งในวันนี้ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ อาทิ มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 3 ปีการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.00 เป็นนิสิตนักศึกษาครูหลักสูตรระดับปริญญาตรีหรือกำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นปี ที่ 4 ยินดีปฏิบัติตามเงื่อนไขการเข้าในโครงการนี้ เป็นต้น
ทั้งนี้การคัดเลือกผู้เรียนจะเปิดกว้างให้ ผู้ที่เรียนในสาขาอื่นที่ไม่ใช่ สายครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ มาสมัครในโรงเรียนนี้ได้ด้วยโดยจะเรียนอีก1 ปี
ส่วนผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าโครงการครูพันธุ์ใหม่ จำนวน 742 คนในปีการศึกษา2554 นั้นยังได้สิทธิเข้าร่วมโครงการครูมืออาชีพ แต่จะต้องไปสำรวจว่าจะมีผู้ที่ต้องการเข้าร่วมจำนวนกี่คน เพราะอาจจะมีผู้ที่ได้รับการคัดเลือกส่วนหนึ่งเปลี่ยนใจไปเข้าร่วมในโครงการ ครูมืออาชีพ ทั้งนี้หากมีผู้สละสิทธิ์ไม่ร่วมโครงการก็ต้องรับเพิ่มเติมตามจำนวนที่สละ สิทธิ์จากโครงการครูพันธุ์ใหม่
"ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในโครงการครูพันธุ์ ใหม่ 742 คนเลือกบรรจุเป็นข้าราชการครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 16 คน และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 726 คน โดยสาขาวิชาภาษาไทยมากที่สุด 115 คน คณิตศาสตร์ 90 คน ภาษาต่างประเทศ 82 คน คอมพิวเตอร์ 78 คน สังคมศึกษา 78 คน" เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวและว่า ในการคัดเลือกบุคคลเข้าโครงการครูมืออาชีพนั้นจะต้องคัดเลือกแบบไม่ต้องใช้ ดุลยพินิจคือจะให้สอบแบบปรนัยและเน้นวัดด้านความถนัดและเจตคติต่อ วิชาชีพครูเป็นหลัก ซึ่งการคัดเลือกต้องคัดคนที่มีความเหมาะสมเนื่องจากโครงการนี้จะรับรองการมี งานทำบรรจุเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งจำนวนที่จะรับในปีนี้นั้นประมาณ 1,000 กว่าคน
ที่มา...ภาพ- ข่าว เดลินิวส์ออนไลน์16/5/55
ที่ประชุมได้พิจารณาเกณฑ์การคัดเลือกผู้รับทุนโครงการครูมืิออาชีพ ปีการศึกษา 2555 โดยได้นำหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้รับทุนในโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ในปีการ ศึกษา 2554 มาพิจารณาเทียบเคียง ซึ่งในวันนี้ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ อาทิ มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 3 ปีการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.00 เป็นนิสิตนักศึกษาครูหลักสูตรระดับปริญญาตรีหรือกำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นปี ที่ 4 ยินดีปฏิบัติตามเงื่อนไขการเข้าในโครงการนี้ เป็นต้น
ทั้งนี้การคัดเลือกผู้เรียนจะเปิดกว้างให้ ผู้ที่เรียนในสาขาอื่นที่ไม่ใช่ สายครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ มาสมัครในโรงเรียนนี้ได้ด้วยโดยจะเรียนอีก1 ปี
ส่วนผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าโครงการครูพันธุ์ใหม่ จำนวน 742 คนในปีการศึกษา2554 นั้นยังได้สิทธิเข้าร่วมโครงการครูมืออาชีพ แต่จะต้องไปสำรวจว่าจะมีผู้ที่ต้องการเข้าร่วมจำนวนกี่คน เพราะอาจจะมีผู้ที่ได้รับการคัดเลือกส่วนหนึ่งเปลี่ยนใจไปเข้าร่วมในโครงการ ครูมืออาชีพ ทั้งนี้หากมีผู้สละสิทธิ์ไม่ร่วมโครงการก็ต้องรับเพิ่มเติมตามจำนวนที่สละ สิทธิ์จากโครงการครูพันธุ์ใหม่
"ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในโครงการครูพันธุ์ ใหม่ 742 คนเลือกบรรจุเป็นข้าราชการครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 16 คน และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 726 คน โดยสาขาวิชาภาษาไทยมากที่สุด 115 คน คณิตศาสตร์ 90 คน ภาษาต่างประเทศ 82 คน คอมพิวเตอร์ 78 คน สังคมศึกษา 78 คน" เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวและว่า ในการคัดเลือกบุคคลเข้าโครงการครูมืออาชีพนั้นจะต้องคัดเลือกแบบไม่ต้องใช้ ดุลยพินิจคือจะให้สอบแบบปรนัยและเน้นวัดด้านความถนัดและเจตคติต่อ วิชาชีพครูเป็นหลัก ซึ่งการคัดเลือกต้องคัดคนที่มีความเหมาะสมเนื่องจากโครงการนี้จะรับรองการมี งานทำบรรจุเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย ซึ่งจำนวนที่จะรับในปีนี้นั้นประมาณ 1,000 กว่าคน
ที่มา...ภาพ- ข่าว เดลินิวส์ออนไลน์16/5/55
ความหวังในตอนนี้
ตอนนี้มีความหวังอย่างเดียวจริงนั่นคือ การหาทุนบรรจุครูสำหรับนักศึกษา ตอนนี้มีทุนมาใหม่นั่นคือทุนครูมืออาชีพ อยากได้ทุนนี้ที่สุดเพราะนี้คือความหวังจริงๆสิ่งที่อยากได้ในฐานะครูคนหนึ่ง แต่ไม่รู้จะไกลเกินไปไหม สู้ๆ อยากได้มากมายแต่พอคิดแล้วคนอื่นๆก็อยากได้เหมือนกัน=-=
ถึงเด็กๆ
วันนี้คือวันที่ดิฉันได้คิดและนึกถึงประสบการณ์ในชีวิตที่ครั้งหนึ่ง(ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา)...ได้ไปสอนที่โรงเรียนสอนพิเศษบ้านครูนิด มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดเพราะได้พบปะพูดคุยกับเด็กๆ ได้สอนในวิชาที่ตัวเองชอบ
แต่ถึงอย่างนั้นวันแรกที่เราไปสอน...มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย วันแรกเราได้สอนชั้นป.1เป็นอะไรที่ง่ายมากค่ะ สอนบวกลบเลขเอง เด็กๆน่ารัก ต่อมาวันที่ 2 ดิฉันได้สอนชั้นป.4 และสอนชั้นนี้จนวันสุดท้ายที่เปิดเรียน ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเด็กๆ...เด็กๆสังเกตเราทุกอย่างเลย ตั้งแต่หัวจรดเท้า ถามทุกอย่างว่าทำไมอย่างนั้น อย่างนี้....ฮ่าๆ เผลอเอ็ดเด็กด้วย แรกๆดูเหมือนไม่ค่อยได้ดั่งใจ เพราะเราชินกับการสอนเพื่อนที่มีพื้นฐานอยู่ เลยไปเร็วเกินต่อมาก็ค่อยๆปรับตัว จนกระทั่งดูจุดเด่นของตนเองทำให้เอามาใช้หลอกล่อเด็กๆ นั่นคือการเล่าเรื่อง เล่านิทานให้ฟัง พบว่าเด็กๆชอบมาก สนใจ ล่ะไม่ไปจากห้องเรียนเลย มันทำให้ฉันมั่นใจขึ้น คุมเด็กมากขึ้นจากเดิมที่ไม่สนใจเลย แล้วก็การใช้การเสริมแรงมีเด็กคนหนึ่งในห้องไม่ยอมทำอะไรเลยเหมอตลอด ไม่รู้ทำไงดี ฮ่าๆเชื่อไหมว่าฉันมีการลงโทษที่แนวมากนั่นคือการโยกหัวปายมา ฮ่าๆๆๆฟังดูงี่เง่า แต่ได้ผลนะ ต่อมาก็จบการสอนวันสุดท้ายมันช่างดูเศร้ากันทั้งชั้น ไม่อยากจากเลยจริงๆ....คิดถึงเด็กๆจัง
จาก ครูรุ้ง =-=
แต่ถึงอย่างนั้นวันแรกที่เราไปสอน...มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย วันแรกเราได้สอนชั้นป.1เป็นอะไรที่ง่ายมากค่ะ สอนบวกลบเลขเอง เด็กๆน่ารัก ต่อมาวันที่ 2 ดิฉันได้สอนชั้นป.4 และสอนชั้นนี้จนวันสุดท้ายที่เปิดเรียน ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเด็กๆ...เด็กๆสังเกตเราทุกอย่างเลย ตั้งแต่หัวจรดเท้า ถามทุกอย่างว่าทำไมอย่างนั้น อย่างนี้....ฮ่าๆ เผลอเอ็ดเด็กด้วย แรกๆดูเหมือนไม่ค่อยได้ดั่งใจ เพราะเราชินกับการสอนเพื่อนที่มีพื้นฐานอยู่ เลยไปเร็วเกินต่อมาก็ค่อยๆปรับตัว จนกระทั่งดูจุดเด่นของตนเองทำให้เอามาใช้หลอกล่อเด็กๆ นั่นคือการเล่าเรื่อง เล่านิทานให้ฟัง พบว่าเด็กๆชอบมาก สนใจ ล่ะไม่ไปจากห้องเรียนเลย มันทำให้ฉันมั่นใจขึ้น คุมเด็กมากขึ้นจากเดิมที่ไม่สนใจเลย แล้วก็การใช้การเสริมแรงมีเด็กคนหนึ่งในห้องไม่ยอมทำอะไรเลยเหมอตลอด ไม่รู้ทำไงดี ฮ่าๆเชื่อไหมว่าฉันมีการลงโทษที่แนวมากนั่นคือการโยกหัวปายมา ฮ่าๆๆๆฟังดูงี่เง่า แต่ได้ผลนะ ต่อมาก็จบการสอนวันสุดท้ายมันช่างดูเศร้ากันทั้งชั้น ไม่อยากจากเลยจริงๆ....คิดถึงเด็กๆจัง
จาก ครูรุ้ง =-=
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)